ติว Course วิชาต่างๆ ในมหาวิทยาลัยระดับ ปริญญาตรี ทุกวิชา
จุฬาอินเตอร์, ธรรมศาสตร์อินเตอร์, มหิดลอินเตอร์ (MUIC) และมหาวิทยาลัยอินเตอร์ทุกแห่ง
ติวทุกวิชา อาทิ
Math
Statistics
Finance
Accounting
MUIC Courses
วิชาที่สอน มีดังนี้
Refresher Math (RM), Intensive Math (IM), Fundamental Math (FM), Principle of Math (PM),
General Math (GM), Calculus Fundamental Statistics (FS), Financial Accounting (Acc 1BA),
Managerial Accounting (Acc 2 BA), Account for TIM,Introduction to Economics, Microeconomics,
Macroeconomics, Intermediate Macroeconomics, Intermediate Microeconomics, Business Finance,
Financial Management, Econometrics,Fundamental Chemistry, General Chemistry, Fundamental Physics,
General Physics, Fundamental Biology, Japanese, French, chinese, English (ERS,ECI-IV)
Course ติว SAT SAT สามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภท คือ SAT I(Reasoning Test) และ SAT II(Subject Test)
SAT-I (Reasoning Test)
จะประกอบด้วยข้อสอบ 3 ส่วน คือ Critical Reading, Math และ Writing ( เรียกส่วนที่ไม่ใช่ Math ว่า Verbal) โดยแต่ละส่วนจะคิดเป็นคะแนนส่วนละ 800 คะแนน รวมทั้งหมดเป็น 2400 คะแนน ช่วงคะแนนในแต่ละส่วนจะมีได้ตั้งแต่ 200-800 คะแนน
»Critical Reading นั้นจะมีคำถามอยู่สองชนิด คือ vocabulary part และ reading part ส่วน
»Math จะเป็นคำถามคณิตศาสตร์ ทั่ว ๆ ไป (ความรู้ประมาณ ม. 3) มีทั้งตัวเลือกและเติมคำตอบในช่อง (grid)
»Writing จะประกอบด้วย essay, grammar (error recognition) และ sentence completion
SAT-II (Subject Test)
เป็นการสอบวัดผลทางวิชาการแยกเป็นรายวิชา โดยที่น้อง ๆ จะได้เลือกวิชาที่ต้องการสอบ โดยปกติแล้วการสอบ SAT Subject Test จะสอบกันสองหรือสามวิชา และการสอบจะมี 3 ช่วง แต่ละช่วงคือหนึ่งวิชา สามารถเลือกทำวิชาใดก่อนก็ได้ เนื้อหาของ SATII นั้นครอบคลุมความรู้พื้นฐานของแต่ละวิชาตามที่ได้เรียนช่วงมัธยมปลาย โดยส่วนมากวิชาที่พี่ ๆ ชอบสอบจะเป็นวิชาสายวิทย์ เช่น MathII ( มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะบังคับตัวนี้) Physics หรือ Chemistry หรือ Biology เพราะสามารถทำคะแนนได้ง่ายกว่าวิชาอื่น แต่หากน้อง ๆ นึกสนุก วิชาพวกภาษา หรือประวัติศาสตร์ก็มีให้น้อง ๆ ได้เลือกสรรเช่นกัน ตัวอย่างวิชาที่ให้เลือกสอบ เช่น Math level I, Math level II, Chemistry, Physics, Molecular Biology, Ecological Biology, World History, Listening, etc.
รายละเอียดการสอบ SAT
ตามที่ข้อสอบ SAT ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของข้อสอบในเดือนมีนาคม 2005 นั้นรูปแบบของข้อสอบใหม่ประกอบโดยข้อสอบ 7 ประเภทดังนี้
1.Math: Multiple Choice
» เป็นข้อสอบเลขระดับมัธยมปลายโดยมีตัวเลือกให้ 5 ข้อ
» เรียนวิชา Math ของ GMAT ได้ (GMAT ยากกว่า SAT)
2.Math: Grid-Ins
» เป็นข้อสอบเลขระดับมัธยมปลายโดยไม่มีตัวเลือกให้
» เรียนวิชา Math ของ GMAT ได้
3.Identifying Sentence Errors
» เป็นข้อสอบ Grammar เหมือน TOEFL CBT แต่มีตัวเลือก 5 ข้อ
» เรียนวิชา Error Identification ของ TOEFL ได้ (TOEFL ง่ายกว่า SAT)
4.Improving Sentences
» เป็นข้อสอบ Grammar และ Style โดยมีตัวเลือก 5 ตัวเลือก
» เรียนวิชา Sentence Correction ของ GMAT ได้ (GMAT ยากกว่า SAT)
5.Identifying Paragraph Errors
» เป็นข้อสอบ Writing โดยมีตัวเลือก 5 ตัวเลือก
» เรียนวิชา Paragraph ของ TOEFL iBT ได้
6.Essay
» เป็นข้อสอบ Writing
» เรียนวิชา Writing ของ GMAT ได้
7.Sentence Completion
» เป็นข้อสอบ Vocabulary และ Reading โดยผู้สอบต้องเลือกคำศัพท์เติมในช่องว่าง
» สามารถทดแทนด้วยการเรียน Vocabulary และ Reading ของ GMAT ได้
» ผู้เรียนควรท่องศัพท์เพิ่มเติม
8.Reading Comprehension
» เป็นข้อสอบ Reading โดยมีตัวเลือก 5 ตัวเลือก
» เรียนวิชา Reading ของ GMAT ได้
การให้คะแนนในแต่ละส่วน
นักศึกษาจะได้รับคะแนนทั้ง 3 ส่วนคือ การอ่าน วิเคราะห์และวิจารณ์ คณิตศาสตร์ และการเขียน (Critical Reading, Mathematics and Writing) โดยที่แต่ละส่วนจะมีคะแนนในช่วง 200 - 800
ผลงานน้องๆที่เรียนแล้วสอบติดม.1และม.4 โรงเรียนชื่อดัง
ตัวอย่างผลงานน้องๆที่สอบติดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ตัวอย่างน้องๆที่เรียนแล้วเกรดเพิ่ม
ตัวอย่างน้องที่สอบได้ IELTS คะแนนสูง